[Chapter 1: Busy Evening]
ลมจากเครื่องปรับอากาศพัดโชยมาเย็น พลางส่งเสียงอื่อตามปกติ
ชั้นลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย บ่ายสองแล้ว
ชั้นนั่งเขียนสรุปไปได้ครึ่งบท
----------------------------------------------
เอ็มเอสเอนที่ชั้นรอตะนาน ก็ติดซะที
แหมก็นะ เนตชาวบ้านนิ
เสียงทักแรกดังขึ้นอย่างชัดเจน
พร้อมกับข้อความว่า "ทำไมไม่เปิดเครื่อง"
ตารีตาเหลือกไปเปิดเลย
ข้อความเข้าเกือบสิบข้อความได้
แจ้งสายไม่ได้รับยี่สิบกว่าสาย จากเพื่อนสามคน
----------------------------------------------
ต้องไล่โทรเลยทีนี้ พอจะตั้งสมาธิเขียนอีกที
เจ๊เค้าก็โทรมาตามประสากระแสการเมือง
เลยต้องโทรไปหาเพื่อนกระแสอีกคน
ระหว่างนั้นเพื่อนที่ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรก็โทรมา
พร้อมด้วยเพื่อนที่คุยกันทางเอ็มบ่อยๆก็โทรซ้อนเข้ามา
ขอถอนใจเป็นอีสาน "ฮ่วย~~เหนื่อยหลาย"
----------------------------------------------
[Chapter 2 : ว่าด้วยโยเกิร์ตและบทสรุป]
อืม อีกวันก็ผ่านไป
ข้าวเช้ามือแรกของวันคือ ยำลูกชิ้นกับเป๊ปซี่ (ได้ข่าวว่าน่าจะเป็นมื้อเที่ยงนะ)
(ส่วนมื้อดึก ที่จิงๆน่าเรียกมื้อเช้า เป็น น้ำผักแบบเข้มข้น)
ไปนั่งทำที่เดอะมอลล์
สรุปได้สองบทเอง
เลยไปนั่งกินร้าน umm....Milk ที่เปิดใหม่(ของฟาร์มโชคชัย)
โยเกิร์ตจากนมสดแท้ๆรสชาติสะใจมากกก
แต่กลับมาเล่นแทบวิ่งเข้าห้องน้ำไม่ทันเลยทีเดียว
ตอนดึกก้อสรุป หมดบทที่รับผิดชอบมา มาฟิตอีตอนดึกนี่เอง
----------------------------------------------
[Chapter 3 : KNOCK KNOCK]
อาการแรกที่เกิดตอนตื่นคือ ปวดมือขวา ไล่ไปถึงกลางหลังเลย
แล้วข้อมือก็มีเสียงกระดูกลั่นดังขึ้น
(ซึ่งปกติที่ขาดังเพราะกรรมพันธุ์อยู่แล้ว ตอนนี้ได้ข้อมือมาเพิ่มอีกอย่าง)
กินยาเข้าไปแปบนึง
โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เพื่อนสาว(ญ แท้)เจ้าเก่าคนเดิม ก็โทรมาเม้าส์แตก
หลังจากนั้น เพื่อนที่ช่วยทำสรุปก็โทรมาถาม
เราก็เลยเสนอช่วยอีกสองบท
ไม่เจียมเลยเนอะ
แต่ก็ทำเสร็จหมดสองบทอ่านะ
พร้อมกลับรื้อของเก่าขึ้นมาทำเพิ่มซะงั้น
----------------------------------------------
[Chapter 4 : Meeting]
วันนี้ก็ได้วาร์ปร่าง ไปที่หอชาวบ้านอีกตามเคย
เพื่อสรุปสองบทสุดท้าย
พร้อมกับ scan
กว่าจะได้กลับบ้านก้เหนื่อยใช่ย่อย
----------------------------------------------
[Special Chapter : up2U]
พวกเธอคงไม่รู้หรอก เบื้องหน้าชั้นมีทางแยกอยู่
สิ่งที่ชั้นต้องเลือกเดิน
ณ ตรงนั้นมีพวกเธอยืนอยู่ ใบหน้าซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากหลากสีสัน
พลางชี้ชวนไปทั้งทางขวาและบอกว่าจะเดินไปด้วยกัน
บางคนชี้ชวนกันไปทางซ้าย เส้นทางที่ต้องเดินคนเดียว
พวกเธอคงไม่รู้ว่า เวลาเริ่มก้าวเข้ามาแล้ว
ชั้นเหลือเวลาไม่มากนักกับการตัดสินใจนี้
ความบ้าคลั่ง หวาดระแวง ระวัง และเสียใจ
ค่อยๆกัดกินไปทีละเล็กละน้อย
ตัวตนที่ชั้นเคยเป็นเริ่มสูญสลาย
สุดท้าย มันก็ขึ้นอยู่กับพวกเธอนะ
เวลาช่วงสุดท้ายนี่ ชั้นให้พวกเธอเป็นคนชี้ทาง
----------------------------------------------
เธอคงไม่รู้หรอกใต้หน้ากากของชั้นตอนนี้มีอะไร
ชั้นเป็นผู้เผลอใส่หน้ากากต้องสาปไปแล้ว
อยากจะถอดหน้ากาก แล้วเข้าไปหาเธออีกครั้ง
ใต้หน้ากากนั้น คือ
น้ำตาที่ชั้นซ่อนไว้ไม่ให้ใครเห็น
กับรอยยิ้มที่ชั้นอยากคืนให้เธอ
แต่ตอนนี้ไม่แน่สิ่งที่อาจทำให้ชั้นเลือกเส้นทางได้
คือ รอยยิ้มของเธอ
ชั้นอยากเห็นรอยยิ้มของเธอที่มีให้ชั้นมันยังอยู่ล่ะก็
และถ้าแม้ว่ามันไม่มีอีกแล้ว
ชั้นคงจะได้คำตอบไม่ว่า นัยน์ตาและรอยยิ้มของเธอเป็นเช่นไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น