วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

[SOHU27:3 Chapter + Special Chapter]

[Chapter 1: Busy Evening]

ลมจากเครื่องปรับอากาศพัดโชยมาเย็น พลางส่งเสียงอื่อตามปกติ

ชั้นลืมตาขึ้นอย่างงัวเงีย บ่ายสองแล้ว

ชั้นนั่งเขียนสรุปไปได้ครึ่งบท

----------------------------------------------

เอ็มเอสเอนที่ชั้นรอตะนาน ก็ติดซะที

แหมก็นะ เนตชาวบ้านนิ

เสียงทักแรกดังขึ้นอย่างชัดเจน

พร้อมกับข้อความว่า "ทำไมไม่เปิดเครื่อง"

ตารีตาเหลือกไปเปิดเลย

ข้อความเข้าเกือบสิบข้อความได้

แจ้งสายไม่ได้รับยี่สิบกว่าสาย จากเพื่อนสามคน

----------------------------------------------

ต้องไล่โทรเลยทีนี้ พอจะตั้งสมาธิเขียนอีกที

เจ๊เค้าก็โทรมาตามประสากระแสการเมือง

เลยต้องโทรไปหาเพื่อนกระแสอีกคน

ระหว่างนั้นเพื่อนที่ร้อยวันพันปีไม่เคยโทรก็โทรมา

พร้อมด้วยเพื่อนที่คุยกันทางเอ็มบ่อยๆก็โทรซ้อนเข้ามา

ขอถอนใจเป็นอีสาน "ฮ่วย~~เหนื่อยหลาย"

----------------------------------------------

[Chapter 2 : ว่าด้วยโยเกิร์ตและบทสรุป]

อืม อีกวันก็ผ่านไป

ข้าวเช้ามือแรกของวันคือ ยำลูกชิ้นกับเป๊ปซี่ (ได้ข่าวว่าน่าจะเป็นมื้อเที่ยงนะ)

(ส่วนมื้อดึก ที่จิงๆน่าเรียกมื้อเช้า เป็น น้ำผักแบบเข้มข้น)

ไปนั่งทำที่เดอะมอลล์

สรุปได้สองบทเอง

เลยไปนั่งกินร้าน umm....Milk ที่เปิดใหม่(ของฟาร์มโชคชัย)

โยเกิร์ตจากนมสดแท้ๆรสชาติสะใจมากกก

แต่กลับมาเล่นแทบวิ่งเข้าห้องน้ำไม่ทันเลยทีเดียว

ตอนดึกก้อสรุป หมดบทที่รับผิดชอบมา มาฟิตอีตอนดึกนี่เอง

----------------------------------------------

[Chapter 3 : KNOCK KNOCK]

อาการแรกที่เกิดตอนตื่นคือ ปวดมือขวา ไล่ไปถึงกลางหลังเลย

แล้วข้อมือก็มีเสียงกระดูกลั่นดังขึ้น

(ซึ่งปกติที่ขาดังเพราะกรรมพันธุ์อยู่แล้ว ตอนนี้ได้ข้อมือมาเพิ่มอีกอย่าง)

กินยาเข้าไปแปบนึง

โทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เพื่อนสาว(ญ แท้)เจ้าเก่าคนเดิม ก็โทรมาเม้าส์แตก

หลังจากนั้น เพื่อนที่ช่วยทำสรุปก็โทรมาถาม

เราก็เลยเสนอช่วยอีกสองบท

ไม่เจียมเลยเนอะ

แต่ก็ทำเสร็จหมดสองบทอ่านะ

พร้อมกลับรื้อของเก่าขึ้นมาทำเพิ่มซะงั้น

----------------------------------------------
[Chapter 4 : Meeting]

วันนี้ก็ได้วาร์ปร่าง ไปที่หอชาวบ้านอีกตามเคย

เพื่อสรุปสองบทสุดท้าย

พร้อมกับ scan

กว่าจะได้กลับบ้านก้เหนื่อยใช่ย่อย

----------------------------------------------

[Special Chapter : up2U]


พวกเธอคงไม่รู้หรอก เบื้องหน้าชั้นมีทางแยกอยู่

สิ่งที่ชั้นต้องเลือกเดิน

ณ ตรงนั้นมีพวกเธอยืนอยู่ ใบหน้าซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากหลากสีสัน

พลางชี้ชวนไปทั้งทางขวาและบอกว่าจะเดินไปด้วยกัน
บางคนชี้ชวนกันไปทางซ้าย เส้นทางที่ต้องเดินคนเดียว

พวกเธอคงไม่รู้ว่า เวลาเริ่มก้าวเข้ามาแล้ว

ชั้นเหลือเวลาไม่มากนักกับการตัดสินใจนี้

ความบ้าคลั่ง หวาดระแวง ระวัง และเสียใจ

ค่อยๆกัดกินไปทีละเล็กละน้อย

ตัวตนที่ชั้นเคยเป็นเริ่มสูญสลาย



สุดท้าย มันก็ขึ้นอยู่กับพวกเธอนะ

เวลาช่วงสุดท้ายนี่ ชั้นให้พวกเธอเป็นคนชี้ทาง

----------------------------------------------

เธอคงไม่รู้หรอกใต้หน้ากากของชั้นตอนนี้มีอะไร
ชั้นเป็นผู้เผลอใส่หน้ากากต้องสาปไปแล้ว

อยากจะถอดหน้ากาก แล้วเข้าไปหาเธออีกครั้ง

ใต้หน้ากากนั้น คือ

น้ำตาที่ชั้นซ่อนไว้ไม่ให้ใครเห็น
กับรอยยิ้มที่ชั้นอยากคืนให้เธอ

แต่ตอนนี้ไม่แน่สิ่งที่อาจทำให้ชั้นเลือกเส้นทางได้

คือ รอยยิ้มของเธอ

ชั้นอยากเห็นรอยยิ้มของเธอที่มีให้ชั้นมันยังอยู่ล่ะก็
และถ้าแม้ว่ามันไม่มีอีกแล้ว

ชั้นคงจะได้คำตอบไม่ว่า นัยน์ตาและรอยยิ้มของเธอเป็นเช่นไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น